JustMakeWeb.com รับทำเว็บไซต์ รับทำเว็บโรงแรม รับทำเว็บขายของ รับทำเว็บบริษัท เว็บสำเร็จรูป รับทำเว็บร้านค้า ออกแบบเว็บไซต์ ใช้งานได้ง่าย รองรับ SEO โปรโมท GOOGLE ให้ติดอันดับได้อย่างรวดเร็ว , ลงโฆษณาฟรี VPS ราคาถูก
รับทำเว็บไซต์
0

1.การแสดงระบำกินรีเล่นน้ำ




                                          กินรีร่อน หรือกินรีเล่นน้ำ เป็นชุดการแสดงที่กองการสังคีต กรมศิลปากร ปัจจุบันคือสถาบันนาฏดุริยางค์ศิลป์ ได้สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อนำไปเผยแพร่ในต่างประเทศ ท่านผู้หญิงแผ้ว สนิทวงศ์เสนี ผู้เชี่ยวชาญนาฏศิลป์ไทย กรมศิลปากร และศิลปินแห่งชาติ ตัดตอนปรับปรุงท่ารำมาจากการแสดงละครเรื่องมโนราห์ ตอนนางกินรีเล่นน้ำที่สระโบกขรณี ซึ่งจัดแสดงให้ประชาชน ณ โรงละครศิลปากร เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2498 โดยปรับปรุงท่ารำให้กลมกลืนกับท่วงทำนองเพลงเชิดจีนผสมกับท่าเหินบินของกินรี ต่อมาได้เพิ่มเติมนำลีลาท่ารำบูชายัญของนางมโนราห์มารำต่อท้ายเพลงเชิดจีน

                                          การแสดงระบำกินรีร่อนจัดแสดงได้สองรูปแบบคือ รำเฉพาะเพลงเชิดจีนแบบหนึ่ง หรือรำมโนราห์บูชายัญต่อท้ายเพลงเชิดจีนอีกแบบนึ่ง การแสดงชุดนี้ได้รับความนิยมว่ากระบวนรำงดงาม กะทัดรัด ลีลาท่ารำแปลกตา มีลักษณะผสมนาฏศิลป์ไทยกับนาฏศิลป์สากล
ใช้วงปี่พาทย์เครื่องห้าหรือเครื่องคู่หรือเครื่องใหญ่เป็นดนตรีประกอบการแสดงตามความเหมาะสมกับโอกาสที่จัดแสดง ทำนองเพลงเชิดจีนตัวหนึ่งและเชิดกลอง หรือเพิ่มเติมเพลงเร็วแขกบูชายัญในตอนท้าย

                                         การแต่งกายดั้งเดิม แบบยืนเครื่องลำลองแบบนางกินรี นุ่งผ้าจีบหน้านางคลี่สองชายพก คาดรัดสะเอว สวมเสื้อยกทรงเข้ารูปปักดิ้นเลื่อม กรองคอ สวมเครื่องประดับถนิมพิมพาภรณ์ ใส่ปีกหาง สวมเล็บมือ ศิราภรณ์มงกุฏกินรี

                                         ปัจจุบันมีการปรับรูปแบบการแสดงให้มีลีลาท่ารำนาฏศิลป์ไทยผสมนาฏศิลป์สากล หรือแบบร่วมสมัย บางท่าเลียนแบบกิริยาอาการเคลื่อนไหวของนกบิน บางท่าเลียนแบบท่าเต้นทุบอกในพิธีศาสนาอิสลามนิกายเจ้าเซ็น เป็นรูปแบบละครสั้น เพื่อให้เข้าถึงอารมณ์และเรื่องราวของตัวละครมากขึ้น
 
 

2.การแสดงดนตรีบรรเลงขิมเดี่ยว


                                            ขิม พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานให้คำอธิบายไว้ว่า "เครื่องดนตรีจีนชนิดหนึ่ง รูปคล้ายพระจันทร์ครึ่งซีกใช้ตี" ขิมถูกนำเข้ามาในประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่ 1 โดยชาวจีนนำมาบรรเลงรวมอยู่ในวงเครื่องสายจีน และประกอบการแสดงงิ้วบ้าง บรรเลงในงานเทศกาล และงานรื่นเริงต่าง ๆ บ้าง
 
                                            คำว่า ขิม มาจากภาษาจีนอู่ฮั่น ซึ่งมาจากอักษรจีน 琴 ซึ่งในภาษาจีนกลางอ่านว่า ฉิน
 
                                            นักดนตรีไทยนำขิมมาบรรเลงในสมัยต้นรัชกาลที่ 6 โดยแก้ไขบางอย่าง คือเปลี่ยนสายลวดทองเหลืองให้มีขนาดโตขึ้น เทียบเสียงเรียงลำดับ ไปตลอดจน ถึงสายต่ำสุด เสียงคู่แปดมือซ้ายกับมือขวามีระดับเกือบตรงกัน เปลี่ยนไม้ตีให้ใหญ่และก้านแข็งขึ้น หย่องที่หนุนสาย มีความหนา กว่าของเดิมเพื่อให้เกิดความสมดุล และมีความประสงค์ให้เสียงดังมากขึ้น และไม่ให้เสียงที่ออกมาแกร่งกร้าวเกินไปให้ทาบสักหลาดหรือหนังตรงปลายไม้ตี ส่วนที่กระทบกับสาย ทำให้เสียงเกิดความนุ่มนวล และได้รับความนิยม บรรเลงร่วมอยู่ในวงเครื่องสายผสมจนถึงปัจจุบัน
 
                                            เพลงที่นิยมบรรเลงกันมากคือ เพลงขิมเล็ก และเพลงขิมใหญ่ ซึ่งเป็นเพลงสำเนียงจีนที่เกิดขึ้นในราวปลายรัชสมัยรัชกาลที่ 4 โดยพระประดิษฐ์ไพเราะ ได้จำทำนองการตีขิมของคนจีนแล้วมาแต่งเป็นเพลงในอัตรา 2 ชั้นได้ 2 เพลง ตั้งชื่อว่า เพลงขิมเล็ก และเพลงขิมใหญ่ สำหรับเพลงขิมเล็ก พระประดิษฐ์ไพเราะได้แต่งขยายเป็นอัตรา 3 ชั้น ส่วนเพลงขิมใหญ่ ครูช้อย สุนทรวาทิน ได้แต่งขึ้นเป็น อัตรา 3 ชั้น เช่นกัน และทั้ง 2 เพลงนี้ ครูมนตรี ตราโมทได้แต่งตัดลงเป็นอัตราชั้นเดียว จนครบเป็นเพลงเถา เมื่อประมาณปี พุทธศักราช 2077 และได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบันนี้

                                            ปัจจุบันนิยมนำเครื่องดนตรีขิมมาบรรเลงเดี่ยวๆ โดยมีเครื่องดนตรีประกอบจังหวะ คือ ฉิ่ง และโทนรำมะนา มักนิยมบรรเลง ตามสถานที่ที่ต้องการสร้างบรรยากาศไทยๆเน้นความผ่อนคลาย เพราะเสียงขิม เป็นเสียงที่ให้ความรู้สึกอ่อนหวาน นุ่มนวล เช่น ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ท หรือบรรเลงเพื่อต้อนรับแขก นักท่องเที่ยว ผู้มาเยือน เพื่อสร้างความประทับใจ บทเพลงที่นิยมบรรเลง คือ เพลงไทยสำเนียงลาวต่างๆ เช่น ลาวดวงเดือน ลาวดวงดอกไม้ ลาวเสี่ยงเทียน เป็นต้น

 
3.การแสดงรำวง


                                                  รำวง วิวัฒนาการมาจากรำโทน  เพลงร้องได้มีการกำหนดท่ารำของแต่ละเพลงไว้โดยเฉพาะ  เช่น  เพลงงามแสงเดือน ใช้ท่าสอดสร้อยมาลาเป็นท่ารำ  เพลงชาวไทยใช้ท่าชักแป้งผัดหน้า  เพลงดวงจันทร์วันเพ็ญใช้ท่าแขกเต้าเข้ารัง และท่าผาลาเพียงไหล่ เป็นต้น  เพลงรำวงที่กำหนดท่ารำโดยใช้ท่ารำแม่บทดังกล่าวนี้เรียกว่า รำวงมาตรฐาน   นิยมในงานรื่นเริงแทนการเต้นรำ   และยังจัดเป็นชุดนาฏศิลป์ไทยที่นำไปแสดงเพื่อความบันเทิงได้อีกด้วย

                                                 กำหนดการแต่งกายของผู้เล่นรำวงให้เป็นระเบียบ  เช่น  ผู้ชายแต่งชุดสากล  ผู้หญิงแต่งชุดเสื้อกระโปรง    หรือชุดไทยพระราชนิยม  ผู้ชายนุ่งโจงกระเบน  สวมเสื้อคอกลม   มีผ้าคาดเอว   ผู้หญิงแต่งชุดไทย  เป็นต้น

                                                 การเล่นรำวง  นอกจากจะเป็นที่นิยมของชาวไทยแล้ว  ชาวต่างชาติก็ยังนิยมเล่นรำวงด้วยเพลง     รำวงที่ต่างชาติรู้จักและมักจะร้องกันได้  คือ  เพลงลอยกระทง  การเล่นรำวงจะเล่นได้ทุกโอกาสที่มีงานรื่นเริงหรือมีการแสดงนาฏศิลป์ไทย ในการนำนาฏศิลป์ไทยไปแสดงที่ต่างประเทศในบางครั้ง  เมื่อจบการแสดงแล้ว    จะมีการเชิญชวนแขกผู้มีเกียรติ  ขึ้นมาร่วมรำวงกับผู้แสดงชายและหญิงของคณะนาฏศิลป์ไทย   นับเป็นการเชื่อมสัมพันธ์ไมตรีระหว่างคณะนาฏศิลป์ไทยและชาวต่างชาติที่เข้ามาชมการแสดง  อีกทั้งยังเป็นการเผยแพร่ศิลปะการเล่นรำวงให้แพร่หลายไปในนานาประเทศอีกด้วย
            
                                                ซึ่งในการแสดงรำวงครั้งนี้ ทางสถาบันบ้านครูไก่ สอนศิลป์ ได้จัดการแสดงโดยการเชิญนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่มาประกอบธุรกิจในไทย มาร่วมรำวง เพื่อสมผัสประสบการณ์ทางวัฒนธรรมไทย และให้ได้รับความสนุกสนาน เป็นกันเอง ซึ่งได้รับคำชื่นชมและความประทับใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก และถือเป็นการแสดงปิดจบ เพื่อเป็นการปิดงานอีกด้วย

 
4.การแสดงดนตรีไทยร่วมสมัย
 


                                                    ดนตรีไทยร่วมสมัยในความหมายที่เกิดขึ้นแทนคําว่า"ดนตรีไทยประยุกต์" ในนิยามนี้ ดนตรีไทยร่วมสมัย (Thai Contemporary Music หรือบางทีเรียกเป็นคำง่ายๆหมายรู้กันทั่วไปในหมู่นักดนตรีไทยว่า “คอนเท็มป์”) หมายถึง ดนตรีที่มีการผสมผสานดนตรีไทยกับดนตรีตะวันตกเข้าด้วยกัน เครื่องดนตรีส่วนใหญ่ที่เลือกใช้ในการบรรเลงทํานองจะเป็นเครื่องดนตรีไทย มีบางครั้งที่ใช้เครื่องดนตรีตะวันตกอย่างไวโอลินหรือไวบราโฟนอยู่บ้าง แต่ยังมีสัดส่วนที่น้อยกว่า ส่วนเครื่องดนตรีตะวันตกที่ใช้ในการบรรเลงผสม ส่วนใหญ่จะใช้เครื่องดนตรีจากวงสมัยนิยมอย่าง กลองชุด เบสกีตาร์ กีตาร์ คีย์บอร์ดชนิดต่างๆ เป็นต้น ทั้งนี้จะใช้เทคนิคทางดนตรีอันหลากหลายแต่ส่วนใหญ่แล้วจะผสมผสานวิธีการประพันธ์ดนตรีอย่างในดนตรีพ็อพ ร็อค หรือ แจ๊สเข้าไป
                                    
                                                    ซึ่งในการจัดงานที่ผ่านมา สถาบันบ้านครูไก่ สอนศิลป์ ก็ได้จัดการแสดงวงดนตรีร่วมสมัยเช่นกัน ซึ่งให้อารมณ์และความรู้สึกที่มีมิติ ให้ความผ่อนคลาย หรูหรา สนุกสนานแบบสากลแต่ยังคงความเอกลักษณ์แบบไทย ๆ โดยส่วนใหญ่จะใช้เพลงไทยสำเนียงลาว และเพลงไทยที่เป็นที่รู้จักเป็นที่นิยม เช่น กระต่ายเต้น ค้างคาวกินกล้วย เชมรไล่ควาย เครื่องดนตรีไทยในการดำเนินทำนอง มีขิม ซออู้ ซอด้วง เครื่องดนตรีสากล เป็นคีย์บอร์ดและกีต้าร์